คำกริยาในภาษาอังกฤษ ตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น 3 ช่อง เรียกว่า
“กริยา 3 ช่อง"
ซึ่งแต่ละช่องก็บอกถึง เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
คำที่แสดงถึงอาการต่าง ๆ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของเวลา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ คือ คำพูดที่แสดง ถึงการกระทำของตัวประธานในประโยค หรือคำที่ทำ
หน้าที่ช่วยคำกิริยาด้วยกันนั่นเอง กิริยาเป็นคำที่มีบทบาทที่สำคัญ ในแต่ละประโยค ถ้าใน
ประโยคนั้น ๆ ขาดคำกิริยา ความหมายก็ไม่เกิด และไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ต่าง ๆได้
เลย หรือมีใจความที่ไม่สมบูรณ์
คำกิริยาตามหน้าที่แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. สกรรมกริยา ( Transitive Verb ) คือ คำกิริยาที่ต้องมีตัวกรรม
หรือคำอื่นเข้า
มารองรับความ หมายจึง จะสมบูรณ์ เช่น The boys kick football in
the field.
หมายความว่า พวกเด็ก ๆเตะ ฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้า คำว่า “kick “ เป็น
คำกิริยา บอกให้
ทราบถึงเหตุการณ์ว่าในขณะนี้หรือปัจจุบัน นี้เด็ก ๆ กำลังเล่นกันอยู่ ส่วนคำ
ว่า “ football ”
เป็นตัวกรรม หรือตัวที่ทำหน้าที่รองรับกิริยาให้มีความ หมายสมบูรณ์ขึ้น
เพราะถ้าใช้คำว่า “ kick “ คำเดียวความหมายไม่สมบูรณ์ ไม่ รู้ว่าเตะ
อะไรนั่นเอง
2. อกรรมกริยา ( Intransitive Verb ) คือ คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัว
กรรมหรือคำอื่น
มารองรับก็ได้ ความหมายสมบูรณ์ เช่น The dogs run in the field.
ประโยคนี้ไม่ต้อง
มีตัวกรรมมารองรับก็ได้ใจ ความสมบูรณ์ดี ซึ่งคำว่า “run “ แปลว่า “ วิ่ง “
คงไม่ต้องถามว่า
ใช้อะไรวิ่ง
3. กริยาช่วย ( Helping Verb หรือ Auxiliary Verb ) คือ กิริยา
ที่มีหน้าที่
ช่วยให้กิริยาด้วยกันมีความหมายดีขึ้น และ ยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมี
ความหมายที่
สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย เช่นShe studies in Lamp – Tech college .
Does she
study in Lamp – Tech College?
คำ กิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น 3 ช่อง
เรียกว่า “กริยา 3
ช่อง" ซึ่งแต่ละ ช่องก็บอกถึง เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
กริยาช่องที่ 1 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
กริยาช่องที่ 2 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
กริยา ช่องที่ 3 ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งใน
ปัจจุบันและอดีต
เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า “ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา หรือ Complement
ตารางกริยา3ช่อง